ข้อมูลจากเว็บไซต์ Time and Date ระบุว่า พระจันทร์จะเต็มดวงในเวลา 13:19 น. ตามเวลาสากล (UTC) หรือราว 20:19 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยอยู่ห่างจากโลกประมาณ 356,980 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นจุดใกล้สุดของวงโคจรในปีนี้
ในขณะเดียวกัน National Geographic รายงานว่า ซูเปอร์มูนครั้งนี้จะทำให้พระจันทร์ดูใหญ่ขึ้นประมาณ 7% และสว่างขึ้นราว 14–30% เมื่อเทียบกับฟูลมูนทั่วไป
พระจันทร์เต็มดวงในเดือนพฤศจิกายนยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า “Beaver Moon” หรือ “Hunter’s Moon” ซึ่งเป็นชื่อเรียกตามวัฒนธรรมยุโรปและอเมริกาเหนือ หมายถึงช่วงเวลาที่สัตว์และมนุษย์เตรียมตัวรับหน้าหนาว
---
ช่วงเวลาสังเกตการณ์
ผู้สังเกตในประเทศไทยสามารถเริ่มชมปรากฏการณ์นี้ได้ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 5 พฤศจิกายน เมื่อพระจันทร์เริ่มโผล่จากขอบฟ้าทิศตะวันออก
ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือหลังพระอาทิตย์ตกประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยเลือกสถานที่ที่ท้องฟ้าเปิด ไม่มีอาคารสูงหรือแสงรบกวน เพื่อให้เห็นพระจันทร์ชัดเจนที่สุด
สำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพ ควรถ่ายช่วงพระจันทร์อยู่ใกล้ขอบฟ้า เพราะจะดูใหญ่กว่าปกติเนื่องจากปรากฏการณ์ "Moon Illusion"
---
ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์
แม้ว่าพระจันทร์จะอยู่ใกล้โลกมากกว่าปกติ แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าซูเปอร์มูนส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติหรือแผ่นดินไหวรุนแรง
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าความแตกต่างของแรงดึงดูดระหว่างซูเปอร์มูนกับฟูลมูนปกติ มีเพียงเล็กน้อยจนไม่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ
---
สรุป
ซูเปอร์ฟูลมูนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 จะเป็นพระจันทร์เต็มดวงที่ใกล้โลกที่สุดของปี และเป็นโอกาสพิเศษสำหรับผู้รักท้องฟ้าในการชมความงดงามของดวงจันทร์อย่างใกล้ชิด
หากท้องฟ้าเปิดในคืนนี้ ถือเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการสังเกตและบันทึกภาพพระจันทร์เต็มดวงที่สวยงามที่สุดของปี
---
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Timeanddate.com – Full Moon November 2025
National Geographic – November 2025 Supermoon
Live Science – Beaver Supermoon: The Biggest and Brightest of 2025
India Times – Supermoon Myths and Facts
Tags:
Space News